หลัง นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ โพสต์รูปคู่ภรรยาในท่านั่งพนมมือ ด้านหลังเป็นหลวงพ่อทันใจ พร้อมเขียนแคปชันว่า วันนี้มาทำบุญ ไม่ขออะไรมาก ขอสาปแช่งคนที่รับเงินชั่วของแก๊งสารวัตรซัว แสร้งทำเป็นโจรกลับใจ รับผลกรรมโดนยึดทรัพย์หมดตัวทั้งตระกูล กลายเป็นคนไร้ต้นทุน สมพรปากทีเถอะ สาธุ

ทีมข่าวพีพีทีวี ได้ติดต่อไปยัง ทนายษิทรา ถึงสาเหตุที่โพสต์ดุเดือดขนาดนี้ เจ้าตัวบอกว่า ปกติเมื่อมีเวลาว่างจะเดินทางไปทำบุญ อย่างสุดสัปดาห์นี้ได้มาทำบุญที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้มาสักการะหลวงพ่อทันใจ

"ชูวิทย์" โต้ปมรับเงินสีเทา มอบ "อนันต์ชัย" ดำเนินคดี "ทนายตั้ม"

"ทนายตั้ม" แฉ "ชูวิทย์" รับเงินเทา 10 ล้าน ผิดหวังตัว "ชูวิทย์" ขอให้เผยข้อมูลทั้งหมด

และระหว่างที่ทำบุญได้นึกถึงเรื่องที่เป็นข่าวตอนนี้อยากให้สังคมตาสว่าง และอยากให้คนที่อ้างว่า เป็นโจรกลับใจ คนที่ต่อหน้าก็ออกมาทำความดีเพื่อสังคม แต่กลับไปรับเงินจากแก๊งสารวัตรซัว ไม่ว่ากี่ล้านก็แล้วแต่ ก็ขอให้โดนยึดทรัพย์ทั้งตระกูล แบบที่ปากเขาว่า แต่ถ้าไม่ได้เป็นแบบที่ถูกกล่าวหา ก็ขอให้เจริญรุ่งเรือง

ทนายษิทรา บอกอีกว่า สัปดาห์หน้าเตรียมจะเปิดหลักฐานเพิ่มอีกตามสัญญา หากนายชูวิทย์ไม่ออกมาเปิดเผยว่า คนของแก๊งสารวัตรซัวที่อยู่ในวงพูดคุย และนำเงินมาให้คือใคร และถ้าหากนายชูวิทย์ยังไม่ยอมรับ ก็เตรียมจะนำหลักฐานที่มีมอบให้กับตำรวจดำเนินการต่อ

นอกจากนี้ ไม่รู้สึกกังวล แม้นายชูวิทย์ จะมอบหมายให้ นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ เตรียมฟ้องดำเนินคดีตัวเองกลับ เพราะที่ผ่านมาเคยถูกฟ้องเป็นร้อยคดี แต่ยังไม่เคยแพ้คดีหมิ่นประมาทเลย และยังพูดติดตลกด้วยว่า แต่ก็ไม่แน่อาจจะแพ้คดีนายชูวิทย์เป็นคดีแรกก็ได้

ล่าสุด ทนายษิทรา ก็งานเข้าอีก เมื่อถูก อดีตรองนายกรัฐมนตรีคนหนึ่ง ชื่อย่อ ย. เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาท หลังจากทนายษิทรา ได้ออกมาแถลงข่าว แฉรองนายกฯ คนดังกล่าว ไปมีความสัมพันธ์กับภรรยาคนอื่น โดยทนายตั้มได้ส่งเอกสารการถูกฟ้องร้องมาในห้องไลน์นักข่าว พร้อมบอกว่า บอกแล้วผมโดนทุกคดีที่แถลง แต่คดีนี้ไม่น่ากังวลเลย และต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า บุคคลดังกล่าวเป็นชู้ มีความสัมพันธ์กับภรรยาคนอื่นจริง ซึ่งก็มั่นใจในพยานหลักฐานที่จะใช้ในการสู้คดี มีครบถ้วน

ทรงเด็กวัด! “ชูวิทย์ สวนทนายตั้ม ทำอะไรไม่ได้ก็สาปแช่ง

ขณะเดียวกัน ด้านนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ได้มีการโพสต์ข้อความระบุว่า "หลังพิงวัด อ้างพระอ้างเจ้า เดินสายเข้าวัดทำบุญ แต่เข้าไม่ถึงธรรมะ เพราะจิตใจร้อนรุ่ม ต่ำทราม ทำอะไรไม่ได้อย่างที่คิดก็สาปแช่ง เป็นทนายไม่ขึ้นศาลยุติธรรม ใช้หลักฐาน แต่ดันกราบไหว้ไปขึ้นศาลพระภูมิแทน รักจะเอาดีเป็นนักร้องเวที หาแสงสปอตไลท์ เก่งแต่ในโซเชียล ว่าความตอบโต้บนคอมเมนต์ ก็ออกมาทำคอนเทนต์เป็นยูทูบเบอร์เสียเลย อีกไม่นานไปเจอกันที่ศาลอาญาดีกว่า บนศาลนั้นของจริง ไม่ใช้โซเชียลเป็นเครื่องมือ แต่ใช้เอกสารหลักฐานมาสู้กัน แล้วช่วยเตรียมหาหลักฐาน 50 ล้านบาท ที่บอกว่าผม หรือลูกผมได้มา ให้ศาลดูด้วย เอาเวลาไปอ่านกฎหมาย ฝึกว่าความให้มากๆ เพราะยงยุทธ ก็ฟ้อง เดี๋ยวก็มีของผมอีก รักจะแฉ อย่าไปร้องงอแงเหมือนเด็ก ต้องเก่งว่าความตอบโต้กับทนายอนันต์ชัยด้วยกันที่หน้าบัลลังก์ศาล มันถึงจะเรียกว่า “ทนาย” ไม่ใช่เอาแต่ยกมือไหว้ในวัดแล้วสาปแช่งแทน อย่างนี้จะไปเรียก “ทนายประชาชน” ได้ไงคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง? ทรงอย่างนี้เขาเรียกกันว่า “เด็กวัด” แท้ๆ"

 “ทนายตั้ม” ไม่กลัวโดนฟ้อง บอกโพสต์สาปแช่ง ไม่ได้เจาะจงใคร

By admin